เทพทาโร
เทพทาโร
ชื่อสามัญ : Citronella laurel, True laurel
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cinnamomum porrectum Kosterm, Cinnamomum parthenoxylon Meissn. และ Cinnamomum glanduliferum Nees
ชื่อวงศ์ : LAURACEAE
ชื่ออื่น : จะไค้ต้น จะไค้หอม พลูต้นขาว (ภาคเหนือ) จวง จวงหอม (ภาคใต้) การบูร (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) เนื่องจากเปลือกและรากมีกลิ่นคล้ายการบูร หรืออบเชยญวน สำหรับภาษายาวี เรียก มือแดกะมางิง
ลักษณะทางพฤษศาสตร์ :
ต้น : เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงกลาง ลำต้นสูง 15-20 เมตร เปลือกไม้แตกเป็นร่องชัดเจน สีน้ำตาลเข้ม กิ่งอ่อนสีเขียวมีจุดสีแดงกระจายทั่วไป
ใบ : เป็นใบเดี่ยว เรียงแบบสลับแผ่น ใบค่อนข้างหนา ใบรูปรีแกมรูปไข่หรือรูปไข่แกมรูปขอบขนาน ผิวใบเรียบเป็นมันทั้งสองด้าน ขอบใบเป็นคลื่น ปลายใบแหลม โคนใบสอบเรียว ท้องใบมีคราบขาว ใบกว้าง 7-9 เซนติเมตร ยาว 22-25 เซนติเมตร เส้นใบแตกแบบขนนก เส้นกลางใบเห็นชัดเจน ใบอ่อนสีแดงส้ม ใบแก่สีเขียวเข้ม ก้านใบยาว 1.1-1.5 เซนติเมตร
ดอก : เป็นช่อขนาดเล็กออกตามปลายกิ่ง สีขาวหรือเหลืองอ่อน มีกลิ่นหอม ก้านช่อดอกจะเรียวยาวและเล็กมาก
ผล : ผลเดี่ยวทรงกลมขนาดเล็ก เส้นผ่าศูนย์กลาง 0.7-1 เซนติเมตร ผลอ่อนมีสีเขียว ผลแก่มีสีม่วงดำ ก้านผลเรียวยาว 3-5 เซนติเมตร
ประโยชน์ :
- เนื้อไม้ มีกลิ่นหอมฉุนเหมือนกลิ่นการบูร อาจกลั่นเอาน้ำมันระเหยออกจากเนื้อไม้นี้ได้
- ใบ มีกลิ่นหอม ใช้เป็นเครื่องเทศ ตามร้านขายสมุนไพรในประเทศไทย จะใช้ใบเทพทาโรแทนใบกระวาน สำหรับใส่เครื่องแกงสะระหมั่น
- เมล็ด ให้น้ำมัน ใช้เป็นยาทาถูนวด แก้ปวด
- เปลือก เป็นยาบำรุงธาตุอย่างดี โดยเฉพาะสำหรับหญิงสาวรุ่น ต้มกินแก้เสียดท้อง ท้องขึ้น ท้องเฟ้อ
- เนื้อไม้ ใช้ในการแกะสลักบางอย่าง ทำเตียงนอน ทำตู้ และหีบใส่เสื้อผ้าที่กันมอดและแมลงอื่นๆ ได้ ทำเครื่องเรือนและไม้บุผนังที่สวยงาม ทำแจวพาย กรรเชียง กระเบื้องไม้ เป็นต้น